อย่างที่รู้กันดีว่า น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งที่มีชีวิต แม้ว่าคนเราสามารถอดอาหารได้หลายสัปดาห์ แต่ถ้าอดน้ำจะเสียชีวิตภายใน 2-3 วัน เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่างกาย โดยร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70% และในแต่ละเซลล์จะมีน้ำ 60% ในเลือดมีน้ำ 92% และในสมองมีน้ำมากถึง 85% น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราขาดไม่ได้ แต่การดื่มน้ำนั้นไม่ใช่ว่าจะดื่มอย่างไรก็ได้ วันนี้เรามีวิธีการดื่มน้ำอย่างถูกวิธีมาฝากค่ะ
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี
1. น้ำที่ดื่มถ้าจะให้ดีต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ
ไม่ร้อนมากหรือเย็นจัด แต่ก็ยกเว้นในบางกรณี เช่น ตอนเช้าถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำอุ่นเพราะจะช่วยในการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น ลำไส้ก็จะสะอาดมากขึ้นตามไปด้วย
2. การดื่มนั้นที่ถูกต้องนั้น ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
หรือจะให้ดีก็วันละ 14 แก้ว หรือโดยเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวของคุณ เช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 60 kg. ก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 10 แก้วนั่นเอง (กรณีนี้ให้นับรวมปริมาณอื่น ๆด้วย เช่น น้ำจากผักผลไม้ แกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ด้วย)
3. ในตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนแปรงฟัน
ควรดื่มน้ำ 2-4 แก้ว เป็นน้ำอุ่น ๆ ได้ก็จะดีมาก
4. ในระหว่างวันควรดื่มน้ำ 1 แก้วทั้งก่อนและหลังมื้ออาหารทุก ๆ มื้อ และในระหว่างช่วงสาย บ่าย เย็น ก็ควรดื่มน้ำอีกครั้งละ 1 แก้ว
5. การดื่มน้ำควรดื่มครั้งละแก้ว และที่สำคัญไม่ควรดื่มรวดเดียวหลาย ๆ แก้ว เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษได้”
6. อย่าดื่มน้ำมากเกินไปก่อนที่จะรับประทานอาหาร
หรือถ้าจะดื่มก็ควรดื่มน้ำก่อนสักประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที
7. ในระหว่างรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา
เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ทำให้ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี
8. ภายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรดื่มน้ำทันที
เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วครึ่งชั่วโมง
9. หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและน้ำอัดลม
เพราะน้ำเย็นจะไปดึงความร้อนในร่างกายมาทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายจึงจะดูดซึมได้ ทำให้ร่างกายเสียเวลาในการปรับสมดุลและสูญเสียพลังงาน
Cr. https://lookmapom.com